เครื่องมือตัด
1. ดอกกัด
ดอกกัดจะทำหน้าที่เป็นใบมีดสำหรับตัดชิ้นงานด้วยเครื่องกลึง แม้ว่าดอกกัดจะมีหลากหลายชนิด แต่ที่ใช้กันอยู่ทั่วไปก็คือชนิดที่ใช้กับเครื่องมือกัดหยาบสำหรับการตัดขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางภายนอก เครื่องมือกลึงตัดสำหรับการกลึงร่องและเครื่องมือคว้านภายในสำหรับการเจาะรู
นอกจากนี้ ดอกกัดที่มีใบมีดแบบถอดเปลี่ยนได้ก็ยังเป็นที่นิยมไม่แพ้กัน เนื่องจากไม่ต้องลับคมของใบมีดให้ยุ่งยาก อุปกรณ์ประเภทนี้มีโครงสร้างสองส่วน อันได้แก่ ส่วนยึดเครื่องมือและปลายใบมีด เมื่อคมตัดของปลายมีดเริ่มทื่อแล้วก็สามารถเปลี่ยนได้เหมือนใบมีดของมีดอเนกประสงค์
2. หัวจับ
หัวจับคือส่วนที่เป็นแคลมป์จับของเครื่องกลึงหรือเครื่องเจาะ ในเครื่องกลึงจะมีหัวจับสำหรับยึดชิ้นงานให้อยู่ในตำแหน่ง ส่วนในเครื่องเจาะจะมีหัวจับสำหรับยึดหัวเจาะ
หัวจับจะมีวิธียึดชิ้นงานหลายแบบ เช่น หัวจับแบบกลไกที่ยึดชิ้นงานโดยใช้โครงสร้างแบบกลไก หัวจับแบบแม่เหล็กที่ยึดชิ้นงานไว้ด้วยแม่เหล็ก และหัวจับแบบสุญญากาศที่ยึดชิ้นงานโดยใช้ระบบสุญญากาศ ซึ่งหัวจับทั้งหมดนี้จะถูกเลือกไปใช้งานตามกลไกและการใช้งานที่แตกต่างกัน หัวจับแบบกลไกจะมีอยู่สองชนิด ได้แก่ ชนิดที่มีปากจับ 3 ปากและชนิดที่มีปากจับ 4 ปาก
การขึ้นรูปโดยใช้เครื่องกลึงหรือเครื่องเจาะให้มีความแม่นยำนั้นจะต้องใช้หัวจับที่ช่วยยึดให้ชิ้นงานและเครื่องมืออยู่นิ่งได้แม้ว่าต้องรับน้ำหนักมากก็ตาม
3. วัสดุเครื่องมือตัด
เครื่องมือตัดวัสดุจะทำมาจากเหล็กกล้าซึ่งมีความแข็งแกร่ง ทนทานต่อการสึกกร่อนและการกระแทก รวมไปถึงรูปร่างที่ไม่เปลี่ยนแปลงแม้อุณหภูมิจะสูงขึ้น เหล็กกล้ามีด้วยกันหลายชนิด ได้แก่ เหล็กกล้าคาร์บอน (เหล็กคาร์บอนธรรมดา) ซึ่งผลิตจากโลหะผสมคาร์บอนและเหล็กกล้า ในปัจจุบันนี้ เหล็กกล้าที่มีระดับความสะอาดสูง รวมไปถึงคุณสมบัติทางกลไกที่เสถียรและทนความร้อนได้ดีนั้นสามารถหาได้ทั่วไป
เหล็กกล้าทั่วไป ได้แก่ เหล็กกล้าความเร็วสูงและคาร์ไบด์อัลลอย เหล็กกล้าความเร็วสูงคือโลหะผสมที่ประกอบด้วยทังสเตนหรือโครเมียมในเหล็กคาร์บอน เหล็กชนิดนี้ถูกนำไปใช้อย่างแพร่หลายเนื่องจากมีความยืดหยุ่นในการปรับรูปร่างให้เหมาะกับการใช้งาน หรือเรียกสั้นๆ ว่า “HSS” ซึ่งมักนำมาใช้ในพื้นที่การผลิต ส่วนคาร์ไบด์อัลลอยจะมีทังสเตนคาร์ไบด์และส่วนประกอบอื่นๆ และใช้สำหรับการกลึงชิ้นงานแบบแข็งและแม่พิมพ์