การตรวจสอบย้อนกลับ
การตรวจสอบย้อนกลับเป็นแนวคิดของความสามารถในการติดตามผลิตภัณฑ์ตั้งแต่การจัดหาวัตถุดิบไปจนถึงการผลิต การบริโภค หรือการกำจัดทิ้ง เพื่อแจกแจงว่าผลิตภัณฑ์นั้นๆ ผลิตขึ้นเมื่อใด ที่ใด และบริษัทใดเป็นผู้ผลิต ซึ่งอุตสาหกรรมการผลิตได้ใช้ระบบนี้สำหรับการจัดการและรับประกันคุณภาพมาเป็นเวลานานแล้ว แต่ก็ยังมีการใช้งานทั่วไปในอุตสาหกรรมอาหารและยาด้วยเนื่องจากความตระหนักด้านความปลอดภัยในช่วงไม่กี่ปีมานี้ ในส่วนนี้จะอธิบายถึงสิ่งต่างๆ เช่น ความรู้พื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบย้อนกลับ ขั้นตอนการทำงานสำหรับการตรวจสอบย้อนกลับโดยใช้ Handheld Mobile Computer และข้อดีที่ได้รับ
- การตรวจสอบย้อนกลับ (Traceability) คืออะไร
- การทำงานด้วย Handheld Mobile Computer
- การตรวจสอบย้อนกลับโดยใช้ Handheld Mobile Computer
- ข้อดีของ Handheld Mobile Computer
การตรวจสอบย้อนกลับ (Traceability) คืออะไร
การตรวจสอบย้อนกลับ (Traceability) คือคำที่เกิดจากการรวมคำว่า “ความสามารถ (Ability)” และ “การติดตาม” (Trace) เข้าด้วยกัน คำจำกัดความของคำนี้จะแตกต่างกันเล็กน้อยในอุตสาหกรรมยานยนต์ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ อาหาร เภสัชกรรม และอุตสาหกรรมต่างๆ ที่คล้ายกัน แต่เมื่อใช้อุตสาหกรรมการผลิตเป็นตัวอย่าง จะอธิบายความหมายของการตรวจสอบย้อนกลับได้ดังนี้ ISO 9001 ของ International Organization for Standardization หรือ องค์การระหว่างประเทศว่าด้วยการมาตรฐาน ได้ให้คำนิยามของการตรวจสอบย้อนกลับไว้ด้วย
การทำให้สามารถติดตามประวัติของผลิตภัณฑ์ได้ด้วยข้อมูลที่บันทึกไว้ เช่น ผู้ผลิต ซัพพลายเออร์ และผู้จำหน่าย ในทุกกระบวนการตั้งแต่การจัดหาวัตถุดิบและส่วนประกอบ ไปจนถึงการผลิต การประกอบ การกระจายสินค้า และการจำหน่าย
อุตสาหกรรมการผลิตได้ใช้แนวคิดของการตรวจสอบย้อนกลับมาเป็นเวลานานแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งมีการใช้การตรวจสอบย้อนกลับมาตั้งแต่ระยะแรกเริ่มเพื่อรองรับระบบการเรียกคืนสินค้า เนื่องจากการขยายขอบเขตการเรียกคืนสินค้า จึงมีความจำเป็นต้องตรวจสอบย้อนกลับให้ได้ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมใด เพื่อให้สามารถกู้คืนผลิตภัณฑ์ได้ทันที และแก้ไขปัญหาในกรณีที่เกิดความผิดพลาดขึ้น
ปัญหาโรค BSE (Bovine Spongienous Phalopathy หรือโรควัวบ้า) ที่เกิดขึ้นในช่วงต้นทศวรรษ 2000 ทำให้การตรวจสอบย้อนกลับแพร่หลายในสังคม ทำให้กระทรวงเกษตร ป่าไม้ และการประมงของญี่ปุ่น ประกาศใช้กฎหมายการตรวจสอบย้อนกลับของเนื้อวัวในปี 2003 เพื่อแก้ไขปัญหาโรค BSE โดยกฎหมายนี้กำหนดให้ต้องมีการระบุตัวตนวัวทุกตัวที่เกิดในประเทศญี่ปุ่นและผู้จำหน่ายทุกรายต้องบันทึกเวลาที่ได้รับและจำหน่ายวัว นอกจากนี้ยังมีการเริ่มใช้ความพยายามอย่างจริงจังในการรับประกันความปลอดภัยของอาหารด้วยกฎหมายการตรวจสอบย้อนกลับอาหาร เช่น กฎหมายการตรวจสอบย้อนกลับของข้าว ซึ่งเป็นอาหารหลักของญี่ปุ่น อีกทั้งในปี 2003 กระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการของญี่ปุ่นยังได้บังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับเภสัชกรรมฉบับแก้ไข ซึ่งกำหนดให้มีการจัดการด้านการตรวจสอบย้อนกลับสำหรับผู้ประกอบการและบุคลากรทางการแพทย์ที่ใช้งานผลิตภัณฑ์ทางชีวภาพ เช่น ผลิตภัณฑ์จากโลหิต และวัคซีน ด้วยวิธีนี้และวิธีอื่นๆ ที่คล้ายกัน การตรวจสอบย้อนกลับสำหรับอาหารและยาจึงเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลัน และยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน
การตรวจสอบย้อนกลับอย่างต่อเนื่องและการตรวจสอบย้อนกลับภายใน
การตรวจสอบย้อนกลับนั้นมีอยู่หลายวิธีด้วยกัน การตรวจสอบย้อนกลับจะมีอยู่สองวิธีหลักคือ การตรวจสอบย้อนกลับอย่างต่อเนื่องและการตรวจสอบย้อนกลับภายใน
- การตรวจสอบย้อนกลับอย่างต่อเนื่อง
- สามารถใช้วิธีนี้เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของผลิตภัณฑ์ในระหว่างหลายกระบวนการได้ (ระหว่างผู้ผลิตต่างๆ)
- การตรวจสอบย้อนกลับภายใน
- สามารถใช้วิธีนี้เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของผลิตภัณฑ์ในกระบวนการเดียวได้
การติดตามไปข้างหน้าและการตามสอบย้อนหลัง
ในการตรวจสอบย้อนกลับนั้น ส่วนประกอบและผลิตภัณฑ์ต่างๆ จะได้รับการระบุเป็นรายชิ้นหรือเป็นล็อต และจะเก็บรวบรวมข้อมูลในหลากหลายกระบวนการ การใช้ข้อมูลที่เก็บไว้เพื่อติดตามความเคลื่อนไหวของส่วนประกอบหรือผลิตภัณฑ์ตามเวลาที่ผ่านไปจะเรียกว่า “การติดตามไปข้างหน้า” ในทางกลับกัน การใช้ข้อมูลนี้เพื่อติดตามลำดับเหตุการณ์ที่ย้อนกลับตามเวลาจะเรียกว่า “การตามสอบย้อนหลัง”
- การติดตามไปข้างหน้า
-
หมายถึงการติดตามส่วนประกอบหรือผลิตภัณฑ์ตามเวลา ตัวอย่างเช่น การตรวจสอบนี้จะมีประโยชน์ในการระบุผลิตภัณฑ์ที่ใช้ส่วนประกอบตามที่กำหนด จึงช่วยให้สามารถเรียกคืนผลิตภัณฑ์ที่พบว่าส่วนประกอบเกิดข้อบกพร่องได้อย่างแม่นยำ วิธีนี้จะเป็นมาตรการแก้ไขสำหรับการเรียกคืนสินค้า และสำหรับการรวบรวมผลิตภัณฑ์ที่มีข้อบกพร่องได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- การตามสอบย้อนหลัง
-
หมายถึงการติดตามลำดับเหตุการณ์ย้อนกลับไปตามเวลา ตัวอย่างเช่น หากตามสอบย้อนหลังเมื่อเกิดปัญหาขึ้นกับผลิตภัณฑ์ที่จัดส่งไปแล้ว จะสามารถระบุล็อตหรือกระบวนการที่ได้รับผลกระทบ และสืบสวนหาสาเหตุได้ วิธีนี้จะมีประสิทธิภาพในการปรับปรุงกระบวนการและคุณภาพของผลิตภัณฑ์และการรับประกันความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์
การทำงานด้วย Handheld Mobile Computer
พื้นฐานของการติดตามไปข้างหน้าและการตามสอบย้อนหลังคือข้อมูลในแต่ละกระบวนการจะได้รับการบันทึกและจัดเก็บไว้อย่างถูกต้อง นอกจากหมายเลขผลิตภัณฑ์และหมายเลขล็อตแล้ว ยังจำเป็นจะต้องเก็บข้อมูล เช่น ตำแหน่งของผลิตภัณฑ์ วันหมดอายุ วันที่และเวลาผลิต รายละเอียดการตรวจสอบ และปลายทางการรับสินค้า/การจัดส่ง สำหรับแต่ละกระบวนการไว้ด้วย
ในการตรวจสอบย้อนกลับ สัญลักษณ์การระบุที่ใช้ถ่ายโอนข้อมูลจะเรียกว่ารูปแบบการแสดงผล สิ่งที่ใช้บันทึกข้อมูล (เช่น ฉลากหรือแท็กอิเล็กทรอนิกส์) จะเรียกว่าสื่อการถ่ายโอน และสิ่งที่ใช้เก็บและจัดการข้อมูล เช่น บัญชีแยกประเภทที่เป็นกระดาษ หรือ PC จะเรียกว่าสื่อการบันทึก วิธีการตรวจสอบย้อนกลับที่ง่ายที่สุดคือการเขียนบันทึกด้วยมือ (รูปแบบการแสดงผล) บนใบบันทึก (สื่อในการถ่ายโอน) และเขียนข้อมูลนี้อีกครั้งในบัญชีแยกประเภท (สื่อสารบันทึก) อย่างไรก็ตาม วิธีนี้นั้นยุ่งยากและไม่มีประสิทธิภาพในการบันทึกข้อมูลจำนวนมาก ด้วยเหตุนี้จึงนิยมใช้ Handheld Mobile Computer และอุปกรณ์ที่คล้ายกันในการอ่านบาร์โค้ดและโค้ด 2D ในการตรวจสอบย้อนกลับ
การตรวจสอบย้อนกลับโดยใช้ Handheld Mobile Computer
ในกรณีที่ต้องการให้สามารถทำการตรวจสอบย้อนกลับได้ทั้งระบบ จะต้องบันทึกประวัติการทำงานในทุกขั้นตอนและจัดการข้อมูลนี้ภายในพื้นที่ส่วนกลาง การใช้บาร์โค้ดจะช่วยให้เก็บข้อมูลนี้ได้อย่างง่ายดายเพียงแค่ใช้ Handheld Mobile Computer ในการอ่านบาร์โค้ด
ข้อดีของ Handheld Mobile Computer
ในส่วนนี้จะกล่าวถึงข้อดีของการติดตั้ง Handheld Mobile Computer ในการตรวจสอบย้อนกลับ
จัดการเรื่องวันที่ได้ง่าย
ในการตรวจสอบย้อนกลับนั้น สิ่งสำคัญคือจะต้องเก็บและบันทึกข้อมูลจากแต่ละกระบวนการ ระบุว่าผลิตภัณฑ์นั้นๆ ผลิตขึ้นเมื่อใด ที่ใด และบริษัทใดเป็นผู้ผลิต ซึ่งการติดตั้งระบบ Handheld Mobile Computer จะช่วยให้บันทึกข้อมูลวันที่ได้โดยอัตโนมัติและทำให้ตรวจสอบได้ง่าย
ขจัดข้อผิดพลาดและการสูญหายของข้อมูลจากการบันทึกข้อมูลด้วยมือ
การจัดการด้วยข้อมูลที่เขียนด้วยมือในบัญชีแยกประเภทหรือสิ่งที่คล้ายกันจะมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดปัญหาอย่างเช่น ผู้ปฏิบัติงานลืมบันทึกข้อมูล และบันทึกข้อมูลผิด ซึ่งเป็นปัญหาที่ไม่อาจแก้ไขได้ แต่ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปด้วยบาร์โค้ดหรือโค้ด 2D
จัดการข้อมูลได้อย่างง่ายดาย
การจัดการข้อมูลของส่วนประกอบและผลิตภัณฑ์ทั้งหมดที่โรงงานผลิตนั้นมีค่าใช้จ่ายสูงและต้องใช้ความพยายามมาก แต่การใช้บาร์โค้ดหรือโค้ด 2D จะช่วยให้การกำหนดข้อมูลนี้เป็นไปอย่างง่ายดาย เนื่องจากข้อมูลเป็นดิจิตอลจึงสามารถจัดการได้สะดวก นอกจากนี้ยังสามารถตรวจติดตามเป็นชุดได้อย่างหลากหลาย เช่น ชุดของสินค้าต่างๆ วันที่เก็บสินค้าในคลังสินค้า ล็อต และวันที่ควรบริโภคก่อน
การติดตามไปข้างหน้าและการตามสอบย้อนหลังที่สามารถทำได้สะดวก
ข้อมูลที่เก็บรวบรวมด้วย Handheld Mobile Computer จะถูกจัดเก็บไว้ใน PC หรือเซิร์ฟเวอร์เพื่อให้สามารถค้นหาและดูข้อมูลได้อย่างง่ายดาย การติดตามไปข้างหน้าและการตามสอบย้อนหลังจึงทำได้อย่างรวดเร็ว
เชื่อมโยงข้อมูลการติดตามระหว่างหลายกระบวนการ/โรงงานได้อย่างง่ายดาย
สามารถใช้บาร์โค้ด/โค้ด 2D เพื่อแบ่งปันและเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างหลายกระบวนการหรือหลายโรงงานได้ การติดตามและตรวจสอบย้อนหลังอย่างต่อเนื่องจึงทำได้ง่าย